“ถ้าเราคิดว่าจะใช้กล่องอะไรก็ได้ แปลว่าเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับของที่อยู่ในกล่องเลย”
การตัดสินใจใช้กล่องหรือบรรจุภัณฑ์แต่ละครั้งไม่ใช่เรื่องที่ตัดสินใจได้ง่าย เพราะถ้าเราเลือกใช้ผิดประเภท โดยไม่ได้คำนึงถึงการนำไปใช้จริงให้ดี ๆ อาจสร้างปัญหาให้ทั้งกับคุณเอง คนบรรจุ ไปจนถึงคนที่ใช้งานของที่อยู่ข้างในที่ส่งมาจากคุณอีกด้วย
ดังนั้น เพื่อให้คุณเลือกใช้กล่องได้ตรงตามจุดประสงค์ ก่อนอื่นเราควรจะมาทำความรู้จักและเข้าใจในกล่องแต่ละประเภทให้ดีก่อน
กล่องจั่วปัง หรือ rigid box
กล่องจั่วปัง (Rigid boxes) เป็นกล่องแข็ง ๆ ทำจากวัสดุที่มีทนทานอย่างเช่น กระดาษแข็งหนา ๆ (บางครั้งอาจเคลือบด้วย PVC ด้วย) หรืออาจเป็นแผ่นไม้อัด ประกอบด้วยตัวฐานและฝาปิด กล่องจั่วปังเป็นที่นิยมใช้ในการบรรจุพวกผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยม หรือของขวัญในโอกาสต่าง ๆ หรือแม้แต่บรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในสินค้าแบรนด์เนม มีจุดเด่นที่ความมั่นคงแข็งแรงและดูหรู ดูแพง นั่นเอง
คุณสมบัติของกล่องจั่วปัง
- มีลักษณะที่แข็งแรง หรูหรา ดูมีระดับ ปลอดภัยต่อของที่บรรจุ
- มีทั้งแบบที่ตัวฐานแยกกับฝากล่อง หรืออาจเป็นแบบที่เชื่อมต่อติดกันได้
เหมาะมากสำหรับผลิตภัณฑ์หรู ๆ หรือใช้ใส่ของขวัญ
- ใช้สำหรับสินค้ากลุ่มไฮเอนด์ สินค้าหรูหรา เพื่อเพิ่มมูลค่าและให้ภาพลักษณ์ของสินค้าที่ดูดี
- ใช้ใส่ของขวัญชิ้นงามที่ใช้มอบให้กันเนื่องในโอกาสสำคัญ ๆ
- ใช้กับของขวัญในองค์กร ที่ต้องการให้เป็นของขวัญดูดีมีระดับ
- บรรจุสินค้าประเภทเครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องสำอาง น้ำหอม ไวน์ สุรา หรือสินค้าพรีเมียมอื่น ๆ
ลูกเล่นและการปรับแต่ง
- ข้อดีของกล่องจั่วปังคือ เราสามารถปรับแต่งที่หลากหลายตามความต้องการ เช่น อาจจะดีไซน์ให้เหมาะกับเอาไปใช้ในการทำแบรนด์สินค้า เป็นต้น
- สามารถเลือกขนาดและรูปร่างตามขนาดของผลิตภัณฑ์ได้เลย
- จะทำเคลือบผิวด้วยก็ได้ เช่น เคลือบด้านหรือเคลือบมัน เคลือบยูวี (spot UV coating) ทำให้มีลายนูน หรือปั๊มฟอยล์ เพื่อเพิ่มความน่าดึงดูดใจและสร้างรูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
- สามารถเจาะช่องได้ด้วย เช่น เจาะช่องไว้สำหรับเป็นที่จับ หรือจะติดตั้งแม่เหล็กไว้สำหรับปิดกล่อง
- สามารถพิมพ์ลาย พิมพ์โลโก้บริษัท สโลแกนต่าง ๆ ที่พื้นผิวกล่องได้
กล่องกระดาษแบบพับขึ้นรูป (Folding Carton Boxes)
กล่องกระดาษแบบพับขึ้นรูป มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป แล้วแต่ว่าผู้ผลิตกล่องจะเรียกว่าอะไร บางเจ้าเรียกทับศัพท์เลยว่า Folding Carton หรือ Paperboard Cartons เป็นต้น บางเจ้าก็เรียกว่า “กล่องกระดาษพับได้” ถือเป็นกล่องอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยม มักพบได้ตามร้านสะดวกซื้อหรือห้างสรรพสินค้า มีทั้งแบบสำเร็จรูปและแบบสั่งทำพิเศษ มีคุณสมบัติสำคัญคือ เป็นกล่องกระดาษแข็งที่พับขึ้นรูปได้ง่าย ทำให้สะดวกในการจัดส่ง เพราะส่งเป็นแผ่นราบไปได้เลย แล้วให้ลูกค้าไปพับขึ้นรูปเป็นกล่องเอง
คุณสมบัติของกล่องแบบพับขึ้นรูป
- ทำจากกระดาษแข็ง ออกมาในลักษณะแผ่นเรียบ โดยจะมีรอยให้เรามาพับเป็นรูปกล่อง สะดวกต่อการจัดเก็บ ประหยัดพื้นที่ และง่ายต่อการขนส่ง
- น้ำหนักเบา ใช้งานได้หลากหลาย
- สามารถออกแบบให้ปิดได้ 2 แบบ คือ แบบเหน็บและแบบที่มีแถบกาวให้ทากาว
- วัสดุที่ใช้สำหรับกล่องกระดาษพับอาจมีความหนาต่างกัน ขึ้นอยู่กับความทนทานที่ต้องการ
ตัวจบของสายประหยัดที่ต้องการความคุ้มค่าและการใช้งานที่หลากหลาย
- กล่องกระดาษพับได้ เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายมาก ๆ ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพราะใช้งานได้หลายรูปแบบ (อเนกประสงค์) แถมยังประหยัดคุ้มค่า ทั้งขั้นตอนผลิตและขั้นตอนขนส่ง
- เรามักเห็นกล่องชนิดนี้ในบรรจุภัณฑ์สินค้าต่าง ๆ เช่น อาหาร เครื่องสำอาง ยา อิเล็กทรอนิกส์ ของเล่น เครื่องเขียน และอื่น ๆ
- สามารถพิมพ์ฉลากและรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ลงไปบนกล่องได้อย่างครบถ้วน
ลูกเล่นและการปรับแต่ง
- ใช้เทคนิคการพิมพ์ได้หลายเทคนิค เช่น การพิมพ์แบบออฟเซ็ต (Offset Printing) หรือแบบดิจิทัล (Digital Printing) ช่วยให้เราทำงานออกแบบที่ซับซ้อนในตัวกล่องได้ แถมยังให้สีสันสดใส และพิมพ์ข้อมูลผลิตภัณฑ์ลงไปในตัวกล่องได้ เช่น กล่องยาแก้ไอ เป็นต้น
- สามารถเคลือบเช่นผิวด้านหรือเคลือบผิวมัน เคลือบยูวี หรือจะเคลือบเงาเพื่อเพิ่มความสวยงามและความทนทานของกล่องก็ได้
- สามารถใช้ไดคัท (Die-cutting) ให้ได้รูปทรงที่ต้องการ รวมถึงจะเจาะช่องเพื่อการตกแต่ง หรือเจาะทำที่จับก็ได้
- สามารถทำตัวนูน แกะลาย หรือแม้แต่เคลือบฟอยล์ เพื่อให้ได้รูปลักษณ์ที่พรีเมี่ยมขึ้นได้
กล่องกระดาษลูกฟูก (Corrugated Boxes)
กล่องกระดาษลูกฟูก (Corrugated Boxes) คือ กล่องกระดาษที่ใช้แผ่นกระดาษ 2 ข้างประกบเข้าหากัน มีลักษณะแบบลูกฟูก ซึ่งส่วนกลางของแผ่นจะถูกทำให้เป็นลอน ช่วยในการรับน้ำหนักได้มากกว่าแผ่นกระดาษปกติ
คุณสมบัติของกล่องลูกฟูก
- มีสร้างโครงสร้างที่แข็งแรงและทนทาน เพราะมีส่วนลอนที่อยู่ระหว่างกระดาษ 2 แผ่น ช่วยรับน้ำหนักและกันกระแทก
- กล่องกระดาษลูกฟูกเป็นที่นิยมใช้ในการจัดวางซ้อนกันได้หลายชั้น เนื่องจากโครงสร้างที่แข็งแรง
- มีจำหน่ายหลายเกรด แตกต่างกันที่ความหนาของกล่อง อาจมีความหนาได้ตั้งแต่ 2 ชั้นไปจนถึง 7 ชั้น ซึ่งมีผลในการป้องกันและความทนทานที่แตกต่างกัน
สุดยอดกล่องสำหรับการขนส่งและการจัดเก็บในโกดัง
- นิยมใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะการขนส่งหรือใช้ในกรณีที่ต้องจัดเก็บในสถานที่จำกัด ทำให้ต้องวางซ้อนกันหลายชั้น
- มีคุณสมบัติป้องกันการกระแทก การรับน้ำหนัก การสั่นสะเทือน ช่วยป้องกันหรือลดความเสียหายระหว่างขนส่ง อีกทั้งบางรุ่นยังสามารถป้องกันความชื้น และการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ (ขึ้นอยู่กับเกรดที่เลือกใช้)
ลูกเล่นและการปรับแต่ง
- มีขนาดให้เลือกมากมาย ปรับแต่งได้ตามความต้องการด้านบรรจุภัณฑ์
- สามารถเลือกความหนาของกล่องได้ โดยมีความหนาให้เลือกได้ตั้งแต่ 2 – 7 ชั้น
- ความแข็งแรงของกล่องกระดาษลูกฟูกสามารถปรับแต่งได้โดยการเลือกวัสดุของกระดาษแผ่นเรียบ (Liner Board) และวัสดุของกระดาษที่ใช้ทำเป็นลอนระหว่างกลางได้
- เราสามารถพิมพ์ลงบนกล่องได้ เช่น โลโก้หรือชื่อแบรนด์ ข้อมูลผลิตภัณฑ์ หรือคำแนะนำในการใช้งานกล่อง เหมือนที่เราเห็นกันบ่อย ๆ ว่า “ระวังแตก” หรือ “ห้ามคว่ำกล่อง” เป็นต้น
กล่องแบบถาดลิ้นชัก (Sleeve Boxes)
กล่องแบบถาดลิ้นชัก หรือบางคนเรียกว่ากล่องไม้ขีด มีลักษณะเป็นกล่องแบบถาดที่นิยมใช้ในการบรรจุผลิตภัณฑ์หลายประเภท เช่น ตัวอย่างน้ำหอม สบู่ ของใช้ในห้องน้ำ หรือเครื่องประดับ เป็นต้น
คุณสมบัติของกล่องถาดลิ้นชัก
- ถาดลิ้นชักประกอบไปด้วยองค์ประกอบ 2 ชิ้น ได้แก่ 1) ส่วนฐาน ที่ทำหน้าที่คล้ายถาดไว้จัดวางตัวผลิตภัณฑ์ และ 2) ส่วนปลอกหรือ cover ที่มีหน้าที่ปิดคลุมกล่องทั้งหมด ซึ่งเราสามารถเลื่อนขยับเพื่อเปิดหรือปิดกล่องได้
- เราสามารถพิมพ์ลายหรือพิมพ์ข้อมูลต่าง ๆ ของผลิตภัณฑ์ลงบนส่วนปลอกเพื่อเพิ่มความน่าดึงดูดใจให้กับบรรจุภัณฑ์ได้
จุดเด่นของกล่องแบบถาดลิ้นชัก
- ส่วนของปลอกกล่อง มักนิยมพิมพ์ลวดลายที่ต้องการสร้างเอกลักษณ์และสะดุดตา
- วิธีเปิดกล่อง ทำได้โดยการเลื่อนเปิด ให้ความรู้สึกว่าสินค้าชิ้นนี้ดูมีมูลค่าและน่าสนใจ บางครั้งจึงนิยมใช้ในกลุ่มสินค้าระดับไฮเอนด์ หรือสินค้าราคาสูง เช่น ตัวอย่างน้ำหอม
ลูกเล่นและการปรับแต่ง
- ส่วนปลอกของกล่องสามารถออกแบบได้หลากหลาย เช่น เราอาจจะออกแบบตัวปลอกให้มีขนาดเล็กกว่าฐานของกล่อง คล้ายกับเข็มขัด เพื่อใช้เป็นตัวคาด เป็นต้น
- ตัวฐานของกล่อง สามารถออกแบบให้บรรจุผลิตภัณฑ์ลงไปได้พอดี ช่วยล็อคไม่ให้ผลิตภัณฑ์หลุดออกจากตัวฐาน
- สามารถเลือกวัสดุได้ตามความต้องการเฉพาะ เช่น กระดาษแข็ง หรือแผ่นไม้อัดที่มีความหนาหรือพื้นผิวที่ต่างกัน
- เลือกใช้เทคนิคการพิมพ์ได้หลายแบบ อย่างเช่น การพิมพ์ออฟเซต หรือการพิมพ์ดิจิทัล เป็นต้น ทำให้เราสามารถออกแบบรูปลักษณ์ของกล่องได้แบบซับซ้อน ช่วยให้กล่องสะท้อนความเป็นแบรนด์ในผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น
- การตกแต่งอื่น ๆ เพิ่มเติมก็สามารถทำได้ เช่น ปั๊มฟอยล์ ปั๊มลายนูน แกะลาย เคลือบยูวี ทำให้พื้นผิวดูหรูหราและพรีเมียม
ข้อแนะนำ แนวทางการเลือกใช้กล่อง
ไม่ว่าคุณกำลังจะเลือกใช้กล่องสำหรับธุรกิจหรือใช้เองส่วนตัวก็ตาม ให้ลองพิจารณาตามหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ดังนี้ จะทำให้คุณเลือกใช้งานกล่องได้ตรงตามความต้องการมากยิ่งขึ้น เช่น จะใช้กล่องกับสินค้าอะไร มีข้อกำหนดทางกฎหมายหรือไม่ มีข้อจำกัดด้านงบประมาณเท่าไหร่ และต้องการนำเสนอให้สินค้าภายในกล่องมีภาพลักษณ์หรือภาพจำอย่างไรกับผู้ที่ได้รับ เป็นต้น
สรุป
การตัดสินใจที่จะใช้กล่องหรือบรรจุภัณฑ์แต่ละครั้ง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ตัดสินใจได้ในระยะเวลาสั้น ๆ เพราะกล่องแต่ละชนิด ย่อมเหมาะสมกับการนำไปใช้ที่แตกต่างกัน ไม่ได้มีกล่องประเภทไหนที่สามารถใช้ได้กับทุกผลิตภัณฑ์ แต่ถ้าเรามีเกณฑ์ในการตัดสินใจชัดเจน รวมถึงพอเข้าใจในความแตกต่างของกล่องแต่ละชนิดแล้ว ก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องยากเท่าไหร่นัก
ดังนั้น ก่อนที่คุณจะเลือกใช้กล่องได้ตรงตามจุดประสงค์ การทำความเข้าใจในข้อดี ข้อจำกัด และสิ่งที่เราสามารถปรับแต่งกับตัวกล่องได้ จะเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้เราเลือกใช้กล่องได้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ หรือธุรกิจของเราที่สุด
